ที่ปรึกษาด้านโภชนาการได้กล่าวถึงเจลแอลกอฮอล์สำหรับกำจัดเชื้อโรคสำหรับทำความสะอาดมือ ว่าไม่สามารถทดแทนการล้างมือที่ดีได้ และเชื่อกันว่าเจลทำความสะอาดมือนั้นอาจไม่ได้ผลเสมอไปหากใช้อย่างไม่ถูกต้อง ในขณะเดียวกัน เมื่อผู้คนกำลังทำความสะอาดมือของพวกเขาอย่างละเอียดเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค ด้วยการล้างมือและใช้สบู่หรือสารทำความสะอาดมือที่มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ การสัมผัสกับเหล่าสารเคมีเหล่านั้นมักจะเพิ่มขึ้น นั่นอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพโดยรวมหรือไม่? เจสัน เคลเบิร์น ผู้เชี่ยวชาญด้านความเสี่ยงด้านสุขภาพด้านเคมีในเมืองเบอร์คานส์ รัฐวิสคอนซิน และอดีตประธานสมาคมวิชาชีพด้านการเฝ้าระวังสุขภาพแห่งชาติ กล่าวว่า “มันเป็นความเชื่อที่ผิด” ผู้คนสามารถจัดการได้โดยการล้างมือเป็นประจำและหลีกเลี่ยงสารเคมีอันตรายเหล่านี้ “มันดีกว่าที่จะใช้สารแห้ง เช่น สบู่หรือด่างไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ ซึ่งสามารถกำจัดไวรัสและแบคทีเรียได้ดีโดยไม่เป็นอันตรายต่อคุณ” เมื่อผู้คนใช้เจลทำความสะอาดมือที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์หรือสารอื่นๆ เช่นคลอโรฟอร์ม พวกเขาอาจสัมผัสกับเชื้อโรคในปริมาณเล็กน้อย ผู้เชี่ยวชาญหลายคนกล่าวว่าปฏิกิริยาทางผิวหนังเล็กน้อย เช่น ผื่นแดงหรือระคายเคือง เช่นเดียวกับผลข้างเคียงในระบบประสาทเล็กน้อย เช่น ความง่วงนอนหรือคลื่นไส้ อาจเกิดขึ้นได้หลังจากสัมผัสสารเคมีเหล่านี้ แต่ไม่น่าจะเป็นอันตรายถาวรหรือร้ายแรงต่อร่างกาย “มันอาจจะได้รับความรู้สึกเย็นๆ บนมือของคุณเล็กน้อยหลังจากใช้และอาจทำให้ผิวของคุณแห้งในระยะสั้น แต่มันควรหายไปเมื่อคุณล้างมืออีกครั้ง” แคลร์ แมคคาร์ธี นักไวยากรณ์ด้านการดูแลสุขภาพและผู้เขียนหนังสือ “แคลร์ มาแล้วทำความสะอาดมือของคุณ” กล่าว แต่ก็มีรายงานบางส่วนที่ผู้คนพบผลข้างเคียงกับสารเคมีเหล่านี้เป็นเวลานานกว่า ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า การกลายพันธุ์หรือความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกันที่อาจเกิดจากการสัมผัสสารเคมีในระยะยาวนั้นเป็นเรื่องที่น่ากังวลมากกว่าที่อาจเป็นจริง “มีรายงานผู้ป่วยบางรายที่แสดงอาการปวดศีรษะ และปวดเมื่อยล้า และอาการเหล่านั้นมีแนวโน้มจะคล้ายกับโรคไขข้อในระยะยาว และเป็นสิ่งที่เรามักไม่สังเกตเห็นหลังจากใช้สารเหล่านี้เพียงครั้งเดียวหรือสองครั้ง” เคลเบิร์นกล่าว หลังจากใช้เวลาเล็กน้อยในการสัมผัสสารเคมี น้ำเหลืองอาจผลิตมากขึ้นเพื่อกำจัดสารเหล่านั้นออกจากร่างกาย แต่ผลกระทบนี้อาจทำให้ร่างกายรู้สึกเหนื่อยล้า แมคคาร์ธีกล่าวว่าเธอเห็นผู้ป่วยบางรายรายงานอาการปวดศีรษะหรืออาการปวดเมื่อยหลังจากใช้วิธีการฆ่าเชื้อ เช่นเดียวกับผู้ป่วยบางรายที่พบอาการผิดปกติในผิวหนังหรือมีอาการคันหลังจากใช้เจลทำความสะอาดมือที่มีส่วนผสมของสารฆ่าเชื้อ “ขึ้นอยู่กับส่วนผสมในเจลทำความสะอาดมือของคุณ การสัมผัสอาจทำให้เกิดการระคายเคือง ผิวแห้งหรือเกิดการสะสมเหลวของน้ำเหลือง ซึ่งสามารถทำให้เกิดอาการปวดเมื่อยตามร่างกายหรือปวดศีรษะ” คริสเตน บรูซ ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลสุขภาพและผู้ร่วมเขียนหนังสือ “ครอบคลุม: วิทยาศาสตร์ของการดูแลสุขภาพของคุณ” กล่าวว่า ผู้ที่มีอาการแพ้สารเคมีหรือมีประวัติการแพ้เหล่านี้ควรหลีกเลี่ยงการใช้เจลทำความสะอาดมือ หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสิ่งเหล่านี้ และล้างมือด้วยสบู่หรือด่างไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์เพื่อป้องกันการระคายเคืองและการปฏิเสธของร่างกาย แมคคาร์ธีกล่าวว่านอกจากจะทำให้ผิวแห้งขึ้นแล้ว เจลทำความสะอาดมือที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์อาจทำให้เกิดการระคายเคืองหรือทำลายแผ่นฟองน้ำที่ป้องกันการสะสมของเชื้อโรคในรองเท้าแตะในระหว่างการใช้งานบ่อยๆ “ถ้าคุณสวมรองเท้าแตะตลอดเวลา และมันเปียกชื้น หรือถ้าคุณใช้เจลทำความสะอาดรองเท้าแตะอยู่เป็นประจำหรือบ่อยครั้ง มันอาจทำให้ที่รองเท้าแห้ง แต่มีกลิ่นเหม็นและรองเท้ายืดหยุ่นและหักได้ง่ายขึ้น” เธอกล่าว ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขอนามัยแนะนำให้หมั่นเปลี่ยนรองเท้าแตะเป็นประจำไม่ควรใช้แอลกอฮอล์มากเกินไป และให้ใช้สบู่หรือผงซักฟอกสำหรับทำความสะอาดเพื่อความปลอดภัยและความสะดวกสบาย